แฟนบอลหัวร้อนปาของอันตรายใส่ทีมตรงข้าม
แต่ดูเหมือนว่าการควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่จะรุนแรงเกินเหตุทำให้เหตุการณ์ในครั้งนั้นต้องจบลงอย่างน่าเศร้าเนื่องจากมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนนับร้อยคน
ในตอนนี้แฟนบอลทั่วทั้งโลกจึงกำลังจับตามองสถานการณ์ดังกล่าวว่าจะจบลงอย่างไร
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าในวันที่ 2
ตุลาคมหลังเกิดเหตุการณ์ในอินโดนีเซียเพียงแค่วันเดียว
จะมีการใช้แก๊สน้ำตาอีกครั้งในฝรั่งเศส
แต่ผู้ที่นำแก๊สน้ำตาออกมาใช้ในครั้งนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กลับเป็นแฟนบอลเองที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้และใช้แก๊สน้ำตาปลาไปยังแฟนบอลฝั่งตรงข้ามเพื่อหวังจะทำร้าย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการแข่งขันลีก เอิง ฝรั่งเศส นัดพบกันระหว่างตูลูสที่ต้องเปิดบ้านพบกับมงต์เปลลิเย่ร์
ทีมเจ้าบ้านสามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จไปด้วยคะแนนถล่มทลายกว่า 4 ประตูต่อ 2 ในวันที่
2 ตุลาคมที่ผ่านมา
การแข่งขันในครั้งนี้จำเป็นต้องพักการแข่งขันไปช่วงระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียวเนื่องจากมีการปาแก๊สน้ำตามาจากฝั่งของแฟนบอลทีมมงต์เปลลิเย่ร์
เหตุการณ์เกิดขึ้นในการแข่งขันช่วงนาทีที่ 57 ในช่วงนั้นตูลูสสามารถขึ้นนำทีมคู่แข่งไปได้ด้วยคะแนนกว่า
4 ประตูต่อ 1 ทำเอาแฟนบอลทีมเยือนถึงกับหัวร้อนและผิดหวังไปตามๆ
กัน และหนึ่งในแฟนบอลก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์เดือดดาลของตนเองได้ เขาจึงตัดสินใจนำเอาแก๊สน้ำตาขึ้นมาปราศรัยอัศจรรย์ของแฟนบอลกลุ่มทีมเยือนที่นั่งรับชมการแข่งขันอยู่อย่างสงบ
แต่มันกลับไปไม่ถึงอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้ามแต่ดันตกลงบนสนามแข่งขันหลังจากนั้น
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักเตะในสนามไม่สามารถแข่งขันกันต่อได้
เนื่องจากแก๊สน้ำตามีฤทธิ์ทำให้แสบทั้งจมูกและดวงตา
นักเตะแต่ละคนพยายามเอาเสื้อขึ้นมาปิดหน้ากันโดยด่วน
หลังจากที่กรรมการตรวจสอบสถานการณ์แล้วก็ได้มีการสั่งให้หยุดพักการแข่งขันไปชั่วคราว
จากนั้นก็ได้พานักเตะทุกคนเดินออกไปจากสนาม เป็นระยะเวลานานกว่า 15 นาทีกว่าจะได้มีการกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง
โชคดีที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอยู่ดี
หลังจากนี้การแข่งขันฟุตบอลใหญ่คงจะต้องมีการตรวจขันอย่างเข้มงวดว่าแฟนบอลพกสิ่งอันตรายเข้ามายังสนามการแข่งขันหรือไม่
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
_________________________________________________________________________________
ติดตามข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม :: เว็บข่าวฟุตบอลออนไลน์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น